คุณอยู่ที่

ทำไมคนตาบอดถึงทำอาชีพเปิดหมวกร้องเพลงกันเยอะ : ความชอบ อาชีพยอดนิยม หรือสภาพความเป็นจริงบีบคั้น

ปรับขนาดตัวอักษร

-A A +A

ภาพคนตาบอดร้องเพลงเปิดหมวก ไม่ว่าจะเป็นการเดินแบกตู้ร้องเพลง ร้องอยู่กับที่ หรือเล่นเครื่องดนตรี คงไม่ดูแปลกตาสำหรับคนที่ไปตลาดที่มีคนพลุกพล่านตามที่ต่างๆ ในยามเช้าหรือยามเย็น บางคนที่เห็นจนชินตาก็อาจมองว่าเป็นอาชีพอาชีพหนึ่งที่คนตาบอดนิยมทำ แต่สำหรับบางคนก็อาจเกิดความสงสัยว่า ทำไมคนตาบอดถึงนิยมทำอาชีพนี้ มันมีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ เป็นเพราะคนตาบอดมีความถนัดในการร้องเพลงหรือเปล่า? หรือเป็นเพราะสาเหตุอื่น

โดยปกติแล้ว อาชีพของคนตาบอดมีค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง นวด ขายลอตเตอรี่ ครู อาจารย์ หรือทำงานมาตรา 35 หรือ 33 ตามบริษัทต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากอาชีพร้องเพลงหรือนวดแล้ว อาชีพอื่นๆ เปิดรับคนตาบอดน้อยมาก และมีคนตาบอดเพียงไม่กี่คนที่ได้รับโอกาส มันเลยทำให้คนตาบอดต้องยึดเอาการร้องเพลงเพื่อเลี้ยงชีพ

หลายคนอาจมองว่า อาชีพร้องเพลง น่าจะเป็นอาชีพที่ทำเงินให้กับคนตาบอดได้เยอะ แท้ที่จริงแล้ว รายรับแต่ละวันไม่สามารถกำหนดตายตัวได้ บางวันได้มาก บางวันได้น้อย หรือในช่วงฝนตกหรือฤดูฝน คนตาบอดก็แทบจะไม่ได้ไปร้องเพลงเลยก็มี ถ้าเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ คนตาบอดก็จะต้องดึงเงินที่เคยหาได้มาใช้ประทังชีพไปพลางๆ ก่อน

แม้ว่าจะมีงานตาม มาตรา 35 ออกมารองรับการจ้างงานคนพิการ แต่กลุ่มคนตาบอด มักจะเป็นกลุ่มพิการประเภทท้ายๆ ที่องค์กรหรือบริษัทต่างๆ ต้องการ เนื่องด้วยมีข้อจำกัดในการทำงานค่อนข้างเยอะ มีงานที่เหมาะกับความสามารถให้ทำน้อย รวมถึงกลุ่มองค์กรและบริษัทเหล่านั้น ไม่มีความเข้าใจในศักยภาพของคนตาบอด เลยไม่สามารถมอบหมายงานที่ตรงตามความสามารถให้ได้ และมองว่าไม่คุ้มต่อการจ้างงานไปในที่สุด เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับการจ้างงานคนพิการประเภทอื่น หรือไม่งานที่มี ก็ไม่ตรงตามความชอบและความสามารถของคนตาบอดในบางคน

นอกจากนี้ เงินที่ได้จากการทำงานตามมาตรายังค่อนข้างน้อย เฉลี่ยตกอยู่ที่ราวๆ 9,500 บาทต่อเดือน หากเป็นคนปกติอาจมองว่าเงินจำนวนนี้ไม่น้อยเกินไปและพอเลี้ยงตัวเองได้ ทว่าคนตาบอดมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสูงกว่าคนตาดีมาก ไม่ว่าจะเป็นค่ารถรับจ้างสาธารณะเวลาไปไหนมาไหน ค่าเช่าบ้านที่ตัวเลือกน้อย เพราะหากอยู่ที่ราคาถูกไปก็เดินทางไม่สะดวกและไม่มีความปลอดภัย รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่บางครั้งต้องจ่ายมากกว่าคนทั่วไป เพื่อให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันไม่ลำบากจนเกินไปนัก

เช่นเมื่อคนตาบอดต้องการซื้ออาหารหรือวัตถุดิบต่างๆ ก็จะต้องเรียกใช้บริการจากรถรับจ้าง คือถ้าขยับตัวออกจากบ้าน ถ้าไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติมาพาไป ทุกอย่างคือค่าใช้จ่ายหมด แม้ว่าจะมีเพื่อนหรือมีญาติมาพาไป ก็ยังคงมีค่าใช้จ่ายบางส่วนอยู่ดี เช่นค่าน้ำมัน ไม่ให้ก็เกรงใจ

สำหรับคนที่บ้านพอมีฐานะ และได้งานมาตรา 35 หรือได้งานที่เป็นพนักงานประจำทำ เพียงแค่เงินเดือนที่ได้รับก็อาจเพียงพอต่อความต้องการ ทว่าสำหรับคนตาบอดที่ต้องออกมาใช้ชีวิตคนเดียว และทางบ้านไม่ได้มีฐานะอะไรมากมาย เงินเดือนที่ได้รับมีแนวโน้มที่จะไม่เพียงพอ ยิ่งเป็นคนตาบอดที่ไม่ได้ทำงานตามมาตรา 35 หรือไม่ได้รับการต่อสัญญาการทำงานในปีถัดไป รวมถึงเป็นคนที่ไม่ได้ทำงานประจำ (งานตามมาตรา 33 หรือเป็นพนักงานบริษัท/องค์กร) ก็ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะถ้าไม่ได้รับโอกาสตรงนี้ พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปทำงานอะไรที่ไหน ถึงจะมีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว ดังนั้นการทำอาชีพร้องเพลงจึงตอบโจทย์ที่สุด เพราะรายได้ขึ้นอยู่กับความขยัน และไม่จำเป็นต้องง้อสัญญางานจากมาตรา 35 ที่ไม่รู้ว่าจะได้ต่อสัญญาในปีถัดไปหรือไม่

ใช่ว่าคนตาบอดทุกคนชอบงานร้องเพลง คนตาบอดเองก็มีความฝันว่าจะได้ทำอาชีพที่ตัวเองชอบไม่ต่างจากคนทั่วไป บางคนเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยคะแนนสูงเกินกว่าคนไม่พิการด้วยซ้ำ แต่เพราะในโลกการทำงานที่แท้จริง โอกาสที่คนตาบอดจะเดินตามความฝันมันมีน้อย แม้แต่จะเดินไปสมัครงานตามบริษัทเหมือนคนทั่วไปเขายังไม่รับ จะหาเลี้ยงตัวเองก็ยังลำบาก มีอะไรที่ทำแล้วเลี้ยงตัวเองได้ก็จำเป็นต้องทำไปก่อน ถ้าไม่ทำก็อดตาย

ส่วนเรื่องขายลอตเตอรี่ก็มีขู้แข่งมากมาย คนตาดีก็มาทำเยอะ เอาโควตาก็ยาก แม้แต่นวดก็ยังมีคนตาดีเข้ามาทำ จากงานคนตาบอดที่มีน้อยอยู่แล้ว ก็ถูกบีบให้น้อยลงไปอีก

ก็ได้แต่หวังว่า ในอนาคต ระบบการจ้างงานคนพิการจะดี เข้าถึง และครอบคลุมกว่านี้ ไม่อย่างงั้นทางเลือกของคนตาบอด ไม่ว่าจะเรียนสูงแค่ไหน ได้ใบปริญญามากี่ใบ ก็คงหนีความเป็นจริงที่เผชิญอยู่ในสังคมไปไม่พ้น

โอกาสของคนตาบอดเชื่อว่ามี เพียงแต่มันมีน้อยจนแทบสัมผัสไม่ได้ก็เท่านั้น

จุดประสงค์ในการนำเสนอบทความนี้ เนื่องเพราะ Blind Living เห็นว่า ปัญหาเหล่านี้มีมานานแล้ว และเราควรออกมานำเสนอพูดคุย เพื่อไม่ให้ปัญหาหมักเอาไว้ใต้พรม อย่างไรก็ตาม อาจมีเนื้อหาบางย่อหน้า บางประโยค หรือบางคำ ที่อาจทำให้รู้สึกไม่ดี ซึ่งทาง Blind Living ขอน้อมรับคำติชมเอาไว้ทั้งหมด และยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น

หากท่านมีความเห็นแย้ง เห็นต่าง หรืออยากร่วมแสดงทัศนคติของท่านเอง สามารถสมัครสมาชิก เพื่อเขียนบทความให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ได้ตลอดเวลา


ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด

ให้ดาวบทความนี้: 
No votes yet

อ่านแล้วเข้าใจมากขึ้นเลย ส่วนใหญ่การหางานสำหรับคนพิการก็ยากอยู่แล้ว แล้วยังเป็นคนตาบอดอีก ผมก็เป็นคนนึงที่พยายามส่ง resume ไปที่ต่าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะไม่ได้รับการตอบรับ หรืออย่างดีที่สุกก็ตอบกลับมาว่าไม่รับ ฮ่าๆๆๆๆๆ

แสดงความคิดเห็น