สำหรับคนตาบอดแล้ว การเดินทางด้วยรถเมล์ ถือเป็นเรื่องค่อนข้างยากเลยละครับ เริ่มตั้งแต่การเดินทางไปยังป้ายรถที่ใกล้ที่สุด เมื่อไหร่รถจะมา ไปจนกระทั่ง เมื่อถึงป้ายที่เราจะลง กระเป๋าที่ไม่คุ้นเคยกับคนตาบอด ก็อาจจะไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเท่าที่ควร จนอาจจะมีปัญหาตามมาได้ เช่น นั่งเลยป้าย เป็นต้น เพราะปัญหาที่จุกจิกแบบนี้ ผมเลยได้ข้อสรุปจากความเข้าใจของตัวเองว่า "รถเมล์" จะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่คนตาบอดจะใช้บริการ...
แต่เมื่อต้นปีที่แล้ว บังเอิญว่า ด้วยหน้าที่การงาน ทำให้ต้องใช้บริการรถเมล์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมได้เจอกับเจ้า "Moovit" แอพที่เป็นผู้ช่วยในการใช้บริการขนส่งสาธารณะทุกประเภท และเข้าถึงกับ Screen reader ทั้ง IOS และ Androi
อธิบายให้เข้าใจกันง่ายๆก็คือ แอพนี้สามารถที่จะแนะนำวิธีการเดินทางไปยังเป้าหมายให้เราได้ โดยเราสามารถเลือกวิธีการเดินทางที่สะดวก และใกล้ที่สุด มีทั้งรถไฟ เรือ รถเมล์ และรถไฟฟ้า แต่ที่มีประโยชน์กว่านั้นก็คือ ถ้าเราเปิดให้แอพทำงานในขณะเดินทาง ระบบจะอัพเดตแบบเรียลทาม และแจ้งให้เราทราบเป็นระยะ ว่าขั้นตอนต่อไปในการเดินทางคืออะไร...
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเลยนะครับ ในการเดินทางจากห้วยขวางไปยังสำนักงานเขตดุสิต ถ้าจะใช้รถไฟฟ้า ผมต้องนั่งหลายต่อมาก ตั้งแต่รถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ไปยังสถานีรถไฟฟ้า นั่งไปลงสิรินธร และต่อรถมอเตอร์ไซต์ออกมาอีก เสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย 2 เท่า แต่ถ้าผมเลือกใช้รถเมล์ ผมก็แค่นั่งรถมอเตอร์ไซต์มาขึ้นรถเมล์ที่ป้ายใกล้ที่สุด และสามารถลงป้ายรถเมล์หน้าสำนักงานเขตได้เลย ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายลงไปได้มาก
โดยในขณะที่รถเมล์กำลังวิ่งไปตามเส้นทาง Voice over จะรายงานผ่านโทรศัพท์ด้วยว่า ป้ายต่อไปคือป้ายอะไร ต้องนั่งไปอีกกี่ป้ายจึงจะถึงเป้าหมาย ใช้เวลาเท่าไหร่ แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวว่ากระเป๋ารถเมล์จะลืม หรือเราจะลงผิดป้ายอีกแล้วละครับ แต่... อย่างที่รู้ๆกันว่า อัตราการวิ่งของรถเมล์แต่ละคัน ไม่ได้มีความเร็วสม่ำเสมอเหมือนรถไฟฟ้า คนที่จะเลือกใช้บริการรถเมล์อาจจะมีข้อกังวลว่า เราจะลงเลยป้ายมั้ย ปัญหาตรงนี้ ตัดไปได้เลยครับ เพราะแอพจะแจ้งเตือนให้เราเตรียมพร้อมก่อนที่จะลงถึง 2 ครั้ง และเมื่อเตือนครั้งที่ 3 แปลว่าเราสามารถที่จะลงได้แล้ว
ยกตัวอย่างเคสของผมเอง ก่อนจะถึงป้ายสำนักงานเขตดุสิต
-การเตือนครั้งที่ 1 แอพจะแจ้งว่า "จะมาถึงที่ สำนักงานเขตดุสิต ในไม่ช้า" นั่นหมายความว่า ผมยังมีเวลาเตรียมตัวอยู่
-การเตือนครั้งที่ 2 จะมีเสียงบอกว่า "เตรียมพร้อม"ในการเตือนครั้งนี้ ให้เราลุกขึ้นยืน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้กระเป๋ารถ หรือคนขับทราบว่า ป้ายหน้าคือเป้าหมายแล้ว และเมื่อเตือนว่าถึงเป้าหมาย เราอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์แล้วก็ได้ครับ เพราะมันคือป้ายที่เราจะต้องลง คงไม่มีเวลามาฟังเสียงจากแอพ 555
โดยส่วนตัวใช้งานฟังก์ชั่นนี้แล้ว พอใจมาก เพราะถึงแม้กระเป๋ารถเมล์จะไม่บอกว่าถึงป้ายไหนแล้ว เราก็สามารถทราบได้แบบเรียลทาม โดยไม่ต้องไปเรียกร้องให้รถเมล์ติดตั้งระบบเสียงบอกป้ายเหมือนรถไฟฟ้าให้ยุ่งยาก เพียงแค่ใช้เทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เข้ากับบริบทต่างๆ แต่สำหรับบริการอื่นๆ เช่น เรือ ผมก็ยังไม่เคยลองเอามาใช้นะครับ
สรุป ข้อดีและข้อสังเกต
ข้อดี
- สามารถค้นหาเส้นทาง และวิธีการเดินทางที่จะไปโดยใช้ขนส่งสาธารณะได้ครอบคลุมทุกบริการ
- โปรแกรมอ่านหน้าจอเข้าถึงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
- มีเสียงบอกป้ายรถเมล์ตลอดเส้นทาง
- สามารถคำณวนระยะเวลาที่เราจะเดินทางไปถึง หรือกำหนดเวลาที่จะเดินทางไปถึง เพื่อให้แอพบอกเวลาที่เราต้องเริ่มออกเดินทางได้ เป็นตัวช่วยจัดการเวลาได้ในระดับนึงเลยครับ
- เป็นแอพฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่มีโฆษณา 100%
ขออนุญาตมาอัพเดตฟังก์ชั่นใหม่ๆของแอพนี้ ที่ผมได้ไปเจอมานะครับ ตอนนี้เค้ามีให้สมัครรายเดือน หรือรายปีแล้ว (มีมานานแล้วด้วย แต่เพิ่งได้ลอง5555) ซึ่งสิ่งที่จะได้เพิ่มเติมมา มันว้าวมากๆ เอาที่สำคัญและเป็นเรื่องใหญ่ๆ 3 ข้อ ที่คิดว่าคนตาบอดยังไงก็ได้ใช้งานเลยนะครับ
1 แทนที่จะเปิดแอพตลอดเวลา เพื่อให้ Voice over อ่านป้ายรถเมล์ที่วิ่งผ่าน เราสามารถล็อคหน้าจอ หรือไปเล่นแอพอื่น โดยปล่อยให้แอพทำงานอยู่เบื้องหลังแบบเรียลทามได้แล้ว ซึ่งรวมไปถึงการเตือนเมื่อถึงปลายทางด้วยนะครับ
2 เราสามารถแชร์การเดินทาง ให้เพื่อน หรือครอบครัวดูได้แบบเรียลทามเลย ว่าตอนนี้ถึงไหนแล้ว ใครที่มีคนรออยุ่ที่บ้านน่าจะชอบฟังก์ชั่นนี้
และสุดท้าย สิ่งที่ผมว้าวมากๆ คือ แอพสามารถแจ้งเตือนเมื่อรถเมล์สายที่เราต้องการจะขึ้น ผ่านป้ายที่เราอยู่แบบเรียลทามเลย สามารถเลือกได้เลยนะครับว่า อยากขึ้นรถของ ขสมก. หรือรถเมล์ปรับอากาศของเอกชน โดยแอพจะทำการเตือน 3 ครั้งคือ 10 นาที ก่อนรถมาถึง 5 นาที และเมื่อรถมาถึงแล้ว แต่ถ้าให้แนะนำ ตอนที่รถเตือนว่า 5 นาที กำลังจะมาถึงเนี่ย ก็เตรียมตัวขึ้นรถได้เลยละครับ หรือต่อให้เราจะขึ้นรถไม่ทัน คันต่อไปที่จะมาถึง แอพก็จะทำการเตือนเรื่อยๆ จนกว่าเราจะไปปิดการแจ้งเตือนรถที่จะมาถึงในแอพนั่นแหละครับ...
สำหรับราคาที่ต้องจ่ายให้กับ Move it pro จากการสำรวจเบื้องต้น ราคาเริ่มต้นที่ 29 บาทต่อเดือน ไปจนถึง 700 กว่าบาทต่อปี ซึ่งรายละเอียดของราคาค่อนข้างแยกย่อยไปหลายแพ็คเกตมาก และไม่มีรายละเอียดให้ดูเลยว่า จ่ายแค่นี้ จะได้อะไรบ้าง เดี๋ยวขอตัวไปทำการบ้าน ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติม จะทยอยอัพเดตให้ทีหลังนะครับ หรือใครยินดีจะเพิ่มเติมข้อมูลให้ จะยินดีมากๆเลยยยยย...
ข้อสังเกต
- ในระบบปฏิบัติการ Androi การบอกป้ายรถเมล์จะใช้งานไม่ได้เหมือนใน IOS แต่ก็ยังสามารถเตือนก่อนจะถึงเป้าหมายได้ปรกติ
- ตอนจะขึ้นรถ ก็ยังต้องขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างอยู่นะครับ เพราะแอพยังไม่เตือนว่ารถสายที่เราจะขึ้นมาถึงแล้ว ถ้าเพิ่มการทำงานตรงนี้เข้าไปได้จะดีมาก เบื้องต้นได้ส่งฟี้ดแบ็คไปยังผู้พัฒนาแอพแล้ว
หวังว่าแอพนี้จะเป็นประโยชน์ ลองไปโหลดมาใช้ดูนะครับ มีปัญหาตรงไหน หรือพบข้อดี/ข้อเสียอะไรที่ผมอาจจะพูดยังไม่หมด มาคุยกันต่อใต้คอมเม้นท์โพ้สท์นี้เลย ผมลองเอาแอพ Viabus ที่คนตาบอดหลายๆท่านบอกว่า เป็นแอพที่เราเข้าถึงมาเทียบกันดู ก็พบว่า... อันนี้ไม่ได้อวยนะครับ Moovit ดีกว่าเห็นๆ อย่าเพิ่งเชื่อผมก็ได้ ถ้ายังไม่ได้ลองด้วยตัวเอง
#เพราะใช้ดีจึงบอกต่อ นะฮะ
ปล. เคยวางแผนจะอัดวีดีโอตอนอยู่บนรถเมล์ แล้วใช้แอพนี้เป็นตัวช่วย แต่ตอนนี้เปลี่ยนที่ทำงานใหม่แล้ว เลยเว้นว่างจากการใช้รถเมล์มาระยะนึง แต่ก็ยังมีไว้ติดเครื่องอยู่ครับ เป็นประโยชน์เวลาที่เพื่อนไม่คุ้นเคยกับเส้นทาง เราก็สามารถช่วยหาเส้นทางและวิธีการเดินทางให้ได้ ใครที่ยังใช้รถเมล์อยู่ ลองทำเป็นวีดีโอมาให้เพื่อนๆคนตาบอดที่ยังตัดสินใจอยู่ได้รับฟังกัน จะขอบคุณมากครับ
เขียนโดย Jimmy Akkaradech
โพสต์ต้นทาง
https://www.facebook.com/groups/179792415550149/permalink/2036355066560532
ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด
แสดงความคิดเห็น