ไม่รู้จะใส่ชื่อเรื่องของโพสต์นี้ว่าอะไรดี จะใส่ว่าแอปที่ระบบ 'บ้านๆ' กว่าที่คิดมันก็ดูแปลกๆ 55 แต่เอาเป็นว่าผมจะมาเขียนเล่าประสบการณ์ที่ได้ลองใช้งานเจ้าแอปพลิเคชันสั่งอาหารที่คนส่วนมากอาจไม่เคยได้ยินชื่อกันสักหน่อย
แอปพลิเคชัน Ant Delivery เป็นแอปพลิเคชันเล็กๆ ที่มีให้เราโหลดมาใช้งานได้กันทั้งแอนดรอยและ IOS ซึ่งอันนี้ไม่แน่ใจว่ามีให้บริการตามเมืองใหญ่ๆ ไหม แต่เอาเป็นว่าบ้านผมที่เป็นอำเภอเล็กๆ มีคนซื้อแฟรนไชส์มาให้บริการในพื้นที่ละกัน
โดยระบบคร่าวๆ ของเขาคือ เมื่อมีคนในท้องถิ่นนั้นๆ ซื้อแฟรนไชส์เพื่อเปิดให้บริการแล้ว ตัวแอปพลิเคชันก็จะเข้าถึงพวกร้านอาหารในพื้นที่ได้ (ก็คงเป็นคนที่ซื้อแฟรนไชส์นั่นแหละเป็นคนเพิ่มข้อมูล)
เมื่อเราเปิดแอปเข้าไป พวกเมนูต่างๆ ก็จะไม่ต่างจากพวกแอปพลิเคชันสั่งอาหารยอดนิยมเท่าไหร่ เพียงแต่จะดูเรียบง่ายมากกว่า มีเมนูน้อยกว่า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกแนะนำร้านอาหารยอดนิยมต่างๆ
ภายในแอปก็จะให้เราสามารถเลือกหมวดหมู่ร้านอาหารได้ เช่นข้าว น้ำ กาแฟ อาหารเส้น ของรับประทานเล่นต่างๆ อยากดูอาหารหมวดไหนก็เลือกหมวดนั้น เมื่อเราเลือกเรียบร้อยก็จะมีร้านที่ตรงกับหมวดหมู่แสดงขึ้นมา ซึ่งในครั้งนี้ผมเลือกเป็นหมวดกาแฟ มันก็จะมีพวกร้านคาเฟ่ที่เข้าร่วมแสดงขึ้นมา ในอำเภอเล็กๆ อย่างอำเภอของผม ก็มีอยู่ราวๆ 10 กว่าร้าน
เมื่อได้ร้านแล้ว ก็ให้เราเลือกเมนูที่ต้องการไปได้เลย ซึ่งระบบตรงนี้ทำได้ดี คนตาบอดใช้งานง่าย แม้บางครั้งจะจิ้มไปแล้วแอปไม่ยอมเปิดหน้าที่ต้องการขึ้นมาก็เถอะ แต่ถ้าเราเลือกเป็นเมนูชากาแฟมันจะมีปัญหานิดหน่อย คือคนตาบอดไม่สามารถเลือกร้อน เย็น หรือปั่นได้ ตัวอ่านหน้าจอเห็นนะ แต่เลือกไม่ได้ แต่ถ้าใครชอบดื่มแบบร้อนๆ ก็ไม่ต้องห่วง เพราะค่าพื้นฐานของแอปเลือกเป็นร้อนไว้ให้แล้ว หรือไม่ก็ให้คนตาดีช่วยกดให้ แต่ถ้าไม่มีคนช่วยจริงๆ แล้วอยากกินแบบเย็นก็พอทำได้อยู่ โดยให้เราไปเลือกร้านกาแฟที่ไม่มีแบบร้อนครับ แอปมันก็จะเลือกค่าพื้นฐานเป็นแบบเย็นมาให้ (แหม่ ลำบากแท้)
ส่วนพวกเมนูอาหาร ก็น่าจะติ๊กเลือกช้อนซ่อมไม่ได้ อันนี้ไม่แน่ใจว่าค่าพื้นฐานของแอปตั้งเอาไว้ยังไง เพราะเคยใช้ครั้งนี้ครั้งแรก และไม่ได้สั่งข้าว ทว่าส่วนตัวคิดว่า ค่าพื้นฐานคงไม่ได้เลือกขอช้อนซ่อมเอาไว้แน่ๆ เมื่อติ๊กไม่ได้ ก็คงต้องพิมพ์ขอเอาในช่องรายละเอียดเพิ่มเติมเอาแหละมั้ง
มาถึงระบบเพิ่มอาหารลงตะกร้า อันนี้แม้จะไม่มีคำอธิบายปุ่มตรงเพิ่มจำนวนสินค้า แต่ก็มีปุ่มลบปุ่มบวกที่คนตาบอดพอเดาได้ ไม่เป็นไร ให้อภัยแบบจำใจละกัน เพราะปุ่มหยิบใส่ตะกร้ายังใช้งานได้ดีอยู่
หลังจากได้เมนูตามต้องการแล้ว การที่เราจะไปยังตะกร้าสินค้าก็ไม่ต่างจากแอปสั่งอาหารยอดนิยมอื่นๆ สักเท่าไหร่
มาถึงขั้นตอนการสั่งก็เหมือนทั่วไป คือตรวจสอบรายการสินค้า ใส่ที่อยู่ สรุปยอดเงินที่ต้องจ่าย เลือกวิธีการจ่ายเงิน และยืนยันคำสั่งซื้อ
มาร้องโอ้ตรงเมนูเลือกการจ่ายเงินอยู่หน่อยๆ เพราะทีแรกเห็นเป็นแอปพลิเคชันง่ายๆ ไอ้เราก็นึกว่าจะจ่ายแบบเงินสดได้อย่างเดียว ที่ไหนได้มีระบบโอนเงินผ่านธนาคารให้ซะด้วย แต่ดูแล้วไม่มีระบบตัดเงินผ่านบัตร หรือทรูวอลเล็ท อะไม่เป็นไร มีระบบตัดเงินผ่านธนาคารก็ยังดี คงให้สแกนจ่ายผ่าน QR Code ละมั้ง แต่ก็เล่นเอางงอยู่หน่อยๆ เพราะไม่เห็นมีเมนูอะไรเกี่ยวกับธนาคารหรือ QR ในแอปเลย แต่สงสัยคงเด้งขึ้นมาตอนสินค้ามาถึงละมั้ง
หลังจากกดสั่งซื้อไปแล้ว ระบบก็แจ้งขึ้นมาไม่ต่างจากแอปสั่งอาหารตัวอื่น คือสถานะคำสั่งซื้อเป็นยังไง มีคนขับกดรับหรือยัง ซึ่งตอนนี้แอบแปลกใจนิดหน่อย เพราะแอปไม่ได้เตือนว่าร้านกำลังจัดเตรียมหรืออะไร แค่แจ้งว่าคนขับกดรับคำสั่งซื้อของเราไปแล้ว และคำสั่งซื้อของเราจะใช้เวลาเท่าไหร่ แล้วจะมาถึงประมาณกี่โมง
ที่ต่างจากแอปยอดนิยมอย่างเห็นได้ชัดคือ จำนวนนาทีไม่ยอมลดลง คือคำสั่งซื้อของผมบอกว่าใช้เวลา 38 นาที แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 15 นาทีแล้ว แต่จำนวนนาทียังแจ้งเป็น 38 เท่าเดิม เหมือนแค่มีไว้บอกเฉยๆ ว่าคำสั่งซื้อของเราจะรอนานแค่ไหน
ปัญหาที่เจออีกอย่างคือ ทางคนขับโทร. กลับมาหาผมว่าเมนูที่ผมเลือกบางเมนู ร้านนั้นไม่มีขายแล้ว แต่ทางแอปพลิเคชันไม่ยอมเอาออก แล้วยังต้องให้คนขับแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง อันนี้ก็มีงงนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร เมนูรับสายของแอปทำให้คนตาบอดเข้าถึงง่าย กดรับสายสะดวก ให้อภัย (ก็) ได้ อันนี้คือความคิดในตอนนั้นนะครับ เพราะมารู้ภายหลังว่าตัวแอปไม่มีระบบโทร. แต่เป็นคนขับโทร. เบอร์มา
จากนั้นก็รอมาเรื่อยๆ โดยเลขนาทีในแอปไม่ลดลง รอจนแอปเตือนขึ้นว่าคนขับได้รับของแล้ว
เห็นแบบนั้น ผมเลยลงมานั่งรอตรงหน้าบ้าน รอไปประมาณ 10 นาทีคนขับก็มาถึง คำแรกที่ผมถามเลยคือ "แอปนี้สแกนจ่ายผ่านธนาคารยังไงครับ" เพราะแอปมันไม่ได้เด้ง QR Code อะไรขึ้นมาให้สแกนเลย
พี่พนักงานวางของลงบนโต๊ะ แล้วพูดขึ้นว่า "จ่ายผ่านแอปธนาคารได้เลยครับ" ไอ้เราก็งง เผลอคิดไปว่า อ๋อ...สงสัยเขาคนให้เราสแกนจ่ายผ่านมือถือพี่เขาละมั้ง ก็เลยหยิบโทรศัพท์ออกมาเข้าเมนูสแกนเตรียมจ่ายเงิน
แต่ก็ยังถามเพื่อความชัวร์นิดหน่อย "อันนี้คือให้ผมสแกนจ่ายเลย หรือต้องโอนจ่ายเข้าบัญชีพี่เลยครับ"
พี่เขาก็ตอบตรงๆ เลยว่า "โอนเงินเข้าบัญชีแบบปกติเลยครับ ผ่านเลขบัญชี"
"อ๋อ สรุปคือแอปพลิเคชันนี้ไม่ได้มีระบบตัดเงินอัตโนมัติ ไม่ได้มีระบบสแกนผ่านแอปใช่ไหมพี่" ผมถามอีกรอบ
พี่แกก็ยังใจเย็นตอบ "ใช่ครับ โอนจ่ายปกติเลย"
ครั้นจ่ายเงินเสร็จ ไอ้ผมก็มานั่งนึกในใจว่า คุณพี่จะใส่เมนูเลือกจ่ายเงินมาเพื่อ ทั้งที่ตัวเองไม่มีระบบจ่ายเงินอัตโนมัติ เล่นเอาเหวอไปเลย เห็นทำระบบหน้าบ้านออกมาค่อนข้างดี เราเลยนึกว่าระบบหลังบ้านคงไม่ธรรมดา
สรุปเลยก็คือ แอปแค่เป็นตัวกลางให้คนขับกับคนซื้อเท่านั้น ส่วนร้านอาหารต่างๆ ก็แค่เพิ่มเมนูเข้าไป แต่ไม่ได้มีการแจ้งเตือน หรือกดรับคำสั่งซื้อใดๆ เลย เมื่อเรากดสั่งไป แอปมันจะไปเตือนคนขับ แล้วคนขับค่อยนำเมนูที่เราสั่งไปคุยกับร้านให้เราอีกที คือเอาจริงๆ เราสามารถตกลงผ่านคนขับโดยตรงเลยก็ได้ ว่าจะเปลี่ยนร้านไหม หรืออะไรยังไง ภายหลังจากที่แอปมันเปิดโอกาสให้เราคุยกับคนขับได้แล้ว
ส่วนระบบจ่ายเงินก็มีให้เลือกไปแบบนั้นแหละ ในความเป็นจริงก็คือ เราต้องจ่ายกับตัวคนขับเอง จะจ่ายแบบไหนก็ได้ ไม่ต่างจากการฝากซื้อเท่าไหร่
ถามว่ามันมาตรฐานไหม ถ้ามองผ่านๆ มันก็ดูดีนะ เพียงแต่ระบบหลายอย่างยังบ้านๆ อยู่ ก็คงเหมาะสมกับแอปพลิเคชันระดับอำเภอละมั้ง
สำหรับใครที่อยู่ในจังหวัดเล็กๆ หรืออยู่ในอำเภอ ก็ลองเอาชื่อแอปไปค้นหามาลองใช้ดูได้ครับ นับว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับคนตาบอดที่ไปซื้อของเองลำบาก
แต่ถ้าแถวนั้นมีบริการสั่งอาหารที่เปิดเอง โดยใส่คำสั่งซื้อผ่าน Facebook ได้โดยตรง ก็สั่งทางนั้นเอาดีกว่าครับ เพราะบางเมนูของแอปนี้ คนตาบอดยังใช้งานยากพอควร เช่นการเลือกสั่งกาแฟนร้อนหรือเย็น ที่เราแตะเลือกไม่ได้
แต่หากต้องการความทันสมัย แตะเลือกเมนูต่างๆ ได้เอง หรือเอาไว้สำรวจร้านค้าที่เข้าร่วม ก็ถือว่าโอเคครับ
ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด
แสดงความคิดเห็น