ขณะที่คนจำนวนไม่น้อยในเมืองไทยยังตกอยู่ภายใต้มายาคติแต่โบราณว่า “คนพิการทำงานไม่ได้” หารู้ไม่ว่าในความเป็นจริงแล้ว คนพิการได้เข้ามาทำงานกับคนปกติในหลากหลายอาชีพมานานแล้ว ซึ่งนั่นรวมไปถึงสายงานที่หลายคนคุ้นเคยอย่างคอลเซ็นเตอร์เองก็ด้วย
หน่วยงานที่คนกรุงเทพฯ คุ้นเคยกันดีอย่างศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กทม 1555 ก็เป็นอีกหน่วยงานที่มีคอลเซ็นเตอร์เป็นคนพิการ โดยมีคนพิการตาบอดประมาณ 80% และคนพิการเคลื่อนไหวประมาณ 20% โดยทาง กทม จ้างงานคนพิการกลุ่มนี้ผ่านบริษัทสตาร์ทอัพ ที่ชื่อว่า Vulcan Coalition ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกแบบนวัตกรรมการจ้างงานคนพิการ เพื่อให้คนพิการได้รับการยอมรับและมีงานทำมากขึ้น ผ่านการจ้างงานด้วยมาตรา 35
สำหรับหลายท่านที่ไม่มั่นใจว่า คนพิการจะทำงานได้จริงไหม แล้วจะส่งผลเสียอะไรกับกระบวนการร้องทุกข์ของเราหรือไม่ คำตอบคือไม่มีผลเสียใดๆ เนื่องเพราะคนพิการที่เข้ามาทำงาน มีหน้าที่แค่รับเรื่องจากประชาชนที่แจ้งเรื่องเข้ามาผ่านสายด่วน 1555 จากนั้นส่งต่อเรื่องที่รับเข้ามาให้ทางเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงดำเนินการต่อไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วก็จะเป็นเจ้าหน้าที่เขตทั้ง 50 เขตของ กทม
ส่วนเรื่องทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ ทักษะการจับประเด็นผู้ร้อง ทักษะการจดบันทึก ในส่วนนี้ไม่น่าห่วงเลย เนื่องจากก่อนเข้าทำงาน ทางบริษัทได้มีการจัดอบรม รวมถึงได้มีการทำแบบทดสอบต่างๆ ให้กับคอลเซ็นเตอร์ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าคนพิการที่เข้าทำงานมีศักยภาพเพียงพอต่อการทำงาน
แม้ว่าคนพิการทางสายตาไม่สามารถมองเห็นได้ แต่คนพิการทางสายตาก็สามารถทำงานบนคอมพิวเตอร์ด้วย โปรแกรมช่วยอ่านหน้าจอ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทำให้คนตาบอดใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ทั้งการพิมพ์ การอ่าน การใช้งานเว็บไซต์ และการเข้าถึงส่วนต่างๆ บนคอมพิวเตอร์ได้อย่างไม่มีปัญหา
โอกาสและความเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นโครงการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าของประเทศไทย ที่จะทำให้คนในสังคมมองข้ามมายาคติแล้วยอมรับการทำงานของผู้พิการได้มากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ สมบัติ บุญงามอนงค์ กรุงเทพมหานคร
ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด
แสดงความคิดเห็น