หลายครั้ง ที่ผมพบคำถามมากมายจากคนทั่วไป โพสต์ถามกันในเว็บบอร์ด ประมาณว่า “คนตาบอดใช้ชีวิตอย่างไร” มีกระทั่งว่า “คนพิการประเภทไหน ใช้ชีวิตได้ลำบากที่สุด”
ซึ่งคำตอบส่วนใหญ่ที่คนปกติมักตอบกัน ก็จะเป็นทำนองเดียวกันก็คือ “คนตาบอด เป็นความพิการที่ใช้ชีวิตยากที่สุด ตามองก็ไม่เห็น ถ้าหูหนวก ยังไปไหนมาไหนได้ ถ้าประเภทร่างกาย ก็ยังมองเห็นและได้ยิน มีตาบอดนี่แหละ ลำบากสุดแล้ว” ถามว่าความคิดทำนองนี้ถูกต้องหรือไม่...คำตอบคือ ไม่ถูกเสียทั้งหมดครับ
การมองไม่เห็นอาจทำให้เราใช้ชีวิตลำบากกว่าคนอื่นจริง ถ้านั่นหมายถึงการนำเราไปเปรียบกับคนปกติ แต่ถ้านำคนตาบอดไปเทียบกับคนพิการประเภทอื่น ผมว่าคนตาบอดโชคดีกว่าเยอะครับ
ถามว่าทำไม?
คำตอบคือ เรามองไม่เห็นแค่ดวงตานะครับ แต่ส่วนอื่นเราใช้การได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเคลื่อนไหว เช่นขา มือ นิ้วมือ / นิ้วท้าว หรือการสื่อสาร
เพราะเราก็พูดกับคนอื่นได้ไม่ต่างกัน อย่างเช่นหู เราก็ฟังคนอื่นรู้เรื่อง ใช้หูฟังแทนตาได้บางสถานการณ์ ฟังเพลงได้ ฟังหนังสือได้ไม่ต่างกัน
ผมว่า ถ้าเทียบกันแล้ว เราทำอะไรได้ใกล้เคียงคนตาดีได้มากกว่าคนพิการประเภทอื่นอีกนะ อันนี้ไม่ใช่ว่าผมมองว่าพิการประเภทอื่นสู้คนตาบอดไม่ได้นะครับ แต่ผมแค่นำสิ่งที่ทำได้จริง และเป็นความจริงมาพูดกัน คนพิการประเภทอื่น ก็ทำอะไรบางอย่างที่เราทำไม่ได้เช่นกัน อย่างประเภทหูหนวก เขาก็มองเห็น ประเภทร่างกาย เขาก็ทั้งมองเห็นทั้งได้ยิน ซึ่งในเรื่องนั้น เราทำไม่ได้แน่นอน เพราะข้อจำกัดทางร่างกาย
แต่ที่ผมอยากจะสื่อ ว่าเราทำกิจกรรมหลายๆ อย่างได้ใกล้เคียงคนตาดีนั่นก็คือ เราไปไหนมาไหนได้ไม่ต่างจากคนตาดี (ถึงจะลำบากไปบ้างบางครั้ง) เราพูดกับคนอื่นๆ ได้ปกติ เราได้ฟังทุกอย่างที่เราหาฟังได้ เราเล่นดนตรีได้ เราอ่านหนังสือ / เขียนหนังสือได้ด้วยเทคโนโลยีชนิดต่างๆ เช่น จากหนังสือเสียง จากสมาร์ทโฟน จากคอมพิวเตอร์ และอื่นๆ ซึ่งที่ไล่มานี้ เป็นสิ่งที่คนทั่วไปทำได้ทั้งหมด
เชื่อมั้ยครับ ถ้าเป็นคนพิการประเภทหูหนวก เวลาไปเรียนร่วมกับคนอื่นๆ หลายครั้ง เรามักจะพบว่า พวกเขาจะต้องอ่านเอาจาก PowerPoint หรือไม่ก็ต้องสังเกตจากปากผู้สอน ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ ก็จะได้ไม่ครบ เพราะผู้สอนจะอธิบายด้วยคำพูดมากกว่า แถมเวลาจะสื่อสารกับคนอื่น ยังต้องใช้ภาษามือ ซึ่งเป็นภาษาเฉพาะทาง ถ้าคนรอบข้างไม่รู้ภาษามือ ก็ต้องพิมพ์เอา หรือไม่ก็ต้องสื่อสารกันแบบเดาครึ่ง ไม่เดาครึ่งอีกด้วย นอกจากนี้การรับข่าวสารอย่างเช่นวิทยุ หรือรายการข่าวบางรายการที่ไม่มีภาษามืออธิบายประกอบยังทำได้ลำบาก ถึงแม้จะพออ่านปากพิธีกรได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ใจความทั้งหมด
ในกรณีนี้ ผมไม่ได้นับรวมคนหูหนวกที่พูดได้ปกตินะครับ เพราะถ้าพวกเขาพูดได้ นั่นก็แสดงว่า เขาต้องพอได้ยินอยู่บ้าง คล้ายกันกับคนตาบอดบางส่วน ที่พวกเขาเหล่านั้นก็พอมองเห็นเช่นกัน แต่ที่ผมนำมาพูด คือเป็นคนที่พิการจริงๆ ไม่ได้เป็นครึ่งๆ กลางๆ แบบนั้น
เราจะมาในกรณีพิการทางร่างกาย กับประเภทตาบอดกันบ้าง
ทุกท่านเคยพบเห็นคนตาบอดตามถนนร้ านอาหาร ตามห้าง หรือตาม 7 หรือไม่ครับ ถ้าท่านเห็น ทีนี้คิดตามผมนะ
โดยมากแล้ว ท่านจะเห็นคนพิการประเภทร่างกาย อยู่ตามสถานที่เหล่านี้น้อยมาก (ในกรณีที่เป็นท่อนล่าง หรือขานะครับ) ส่วนร่างกายประเภทแขน หรือส่วนอื่นๆ อันนี้ต้องเห็นอยู่แล้ว เพราะพวกเขาเดินได้ปกติ แต่ก็จะไปติดปัญหาส่วนอื่นๆ แทน เช่นติดปัญหาในส่วนการทำงานที่ต้องใช้มือเป็นองค์ประกอบสำคัญ
ซึ่งถ้าพูดกันตามตรง ผมรู้สึกดีนะ ที่ถึงแม้ว่าผมจะมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ผมยังเดินได้ปกติ ผมยังไป 7 ได้ เดินเข้าไปในร้านอาหาร เที่ยวห้างได้ เล่นน้ำทะเลได้ ซึ่งบางพื้นที่ ไม่ได้มีทางรถวีลแชร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องนั่งรถวีลแชร์เลย
ในทางกลับกัน ผมก็รู้สึกยินดีไปกับคนที่มีความพิการประเภทอื่น ถามว่าทำไม? ยกตัวอย่างเลยนะครับ
ผมรู้สึกยินดีกับคนหูหนวก เพราะพวกเขาไปไหนมาไหนได้โดยง่าย ไม่ต้องพึ่งคนอื่น มองเห็นในสิ่งที่ผมไม่เห็น ดูภาพสวยๆ ได้ วาดภาพได้ มีโอกาสได้ทำงานตามบริษัทมากกว่า
ผมรู้สึกยินดีกับคนที่มีความพิการประเภทร่างกาย เพราะพวกเขาได้ยินไม่ต่างจากผม ได้มองดูสิ่งสวยงามไม่ต่างจากคนหูหนวก ยิ่งบางท่านไม่ได้พิการส่วนท่อมล่าง ท่านสามารถเดินไปที่ไหนก็ได้ที่ท่านอยากไป มีโอกาสได้ทำงานในบริษัทพอสมควร
ทุกประเภทความพิการมีจุดดีจุดด้อยต่างกัน ที่ผมอยากจะสื่อในวันนี้ ก็แค่ว่า เราทำกิจกรรมที่คนทั่วไปเขาทำกันได้มาก ไม่ได้แพ้คนพิการประเภทอื่น หรืออาจมากกว่า ก็เท่านั้น เราไม่ได้ลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันขนาดนั้น
เห็นมั้ยครับว่า ความลำบากในการใช้ชีวิต มันไม่ได้มีแค่การเดินไปไหนมาไหนเท่านั้นนะครับ แต่มันรวมถึงทุกเรื่องในชีวิตประจำวันของมนุษย์เราทั้งหมดเลย
หากในบทความนี้ มีคำพูดใดๆ ที่ไปกระทบต่อเพื่อนชาวคนพิการเช่นกันกับผม ผมก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพราะหากไม่หยิบยกตัวอย่างการใช้ชีวิตขึ้นมาอธิบาย ผมก็ไม่สามารถที่จะเขียนบทความให้คนอื่นเข้าใจได้ บทความนี้ เป็นเพียงประสบการณ์อันอ่อนด้อยของผม อาจจะมีหลายส่วนที่ไม่ถูกต้องบ้าง ผมหวังให้ทุกท่านให้อภัยด้วยครับผม
ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด
แสดงความคิดเห็น