เวลาคนตาปกติเลือกซื้อของ นอกจากเรื่องความต้องการหรือราคาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญก็คงจะเป็นตัวสินค้าเอง ว่ามีลักษณะแบบไหน คุณภาพเป็นยังไง สวยงามถูกใจหรือไม่
แต่เมื่อเป็นการเลือกซื้อสินค้าของคนตาบอด ซึ่งไม่อาจมองเห็นตัวสินค้าได้ หลายคนคงจะสงสัยว่า แล้วเมื่อมองไม่เห็น คนตาบอดใช้อะไรเป็นเกณว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ เพราะไม่มีทางรู้ได้เลย ว่าสินค้าตัวนั้นมันสวยหรือไม่สวย ถูกใจหรือไม่ถูกใจ
ก่อนอื่นเราจะต้องแบ่งประเภทของสินค้าที่คนตาบอดต้องการซื้อก่อนว่า สินค้าชิ้นนั้น เป็นประเภทของใช้หรือเสื้อผ้า เพราะคนตาบอดจะมีเกณในการเลือกที่แตกต่างกันออกไป
หากเป็นประเภทของใช้ คนตาบอดจะเน้นที่การใช้งานเป็นหลัก จะไม่ค่อยสนความสวยงามเท่าไหร่ อาทิหากเป็นโทรศัพท์ คนตาบอดก็จะลองจับลองลูบคลำดูก่อน ว่าลักษณะของเครื่องเป็นยังไง เช่นเป็นสี่เหลี่ยมทรงโค้ง ไม่เหลี่ยมมาก หรือเป็นสี่เหลี่ยมแบบคม กล่าวคือตรงที่เป็นเหลี่ยมคือเป็นเหลี่ยมแท้ๆ ไม่ได้ออกแบบเป็นมุมโค้งเลย
ขนาดเครื่องเล็กหรือใหญ่ หนาหรือบางแค่ไหน ตัววัสดุคงทนหรือไม่ เวลาใช้มือสัมผัสให้ความรู้สึกแบบไหน เช่นสากมือ หรือลื่นมือ หน้าจอโทรศัพท์สามารถสไลด์นิ้วได้ง่ายหรือเปล่า เป็นต้น
จากนั้นก็จะลองใช้งาน เช่นเครื่องเร็วหรือเปล่า เสียงของลำโพงดังดีแค่ไหน เมนูการใช้งานซับซ้อนมากหรือไม่
ส่วนเรื่องที่คนตาบอดจะมองข้ามกันเป็นส่วนมาก หรือไม่ค่อยให้ความสำคัญคือเรื่องสี เช่นสีขาว สีดำ สีเทา ฯลฯ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะมองข้าม เพราะคนตาบอดบางส่วนก็เลือกสีอยู่เหมือนกัน แต่ก็จะไม่ให้ความสำคัญอะไรมากเท่ากับคนตาปกติ
ส่วนหากเป็นประเภทเสื้อผ้า คนตาบอดก็จะลองจับดูเนื้อผ้า ว่าให้สัมผัสแบบไหน เช่นลื่นมือ หรือสากมือ เนื้อผ้าหนาหรือบาง สัมผัสจากปลายนิ้วจะระบุได้ทันทีเลยว่า หากเนื้อผ้าเป็นแบบนี้ซับเหงื่อได้ดี เนื้อผ้าแบบนี้ระบายอากาศได้ง่าย เนื้อผ้าแบบนี้มีความยืดหยุ่นสูง
ส่วนเรื่องสีหรือความสวยงาม ในจุดนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ถ้าเป็นผู้ชาย ส่วนใหญ่แล้วก็จะใส่ได้หมด หรือถ้าเลือกก็มักจะเลือกสีง่ายๆ เช่นสีดำ สีขาว ฯลฯ ก็แล้วแต่ว่าคนตาบอดคนนั้นเคยมองเห็นมากแค่ไหน หรือเคยใส่เสื้อสีอะไรมากที่สุด แต่ก็นั่นแหละ แค่เลือกในสีที่ตัวเองคุ้นเคย แต่ไม่ใช่ประเด็นเรื่องความสวยงาม
หากเป็นผู้หญิงก็จะเน้นความสวยงามค่อนข้างมาก โดยจะให้คนอื่นที่มองเห็นบรรยายให้ฟัง ว่าเสื้อผ้าสีอะไร มีลายอะไร สีนี้สวยหรือเปล่า สวยยังไง เมื่อลองใส่แล้วเหมาะกับตัวเองหรือไม่ จากนั้นก็จะจดจำเอาไว้ เมื่อมีโอกาสไปเลือกซื้อ ก็จะใช้ข้อมูลที่มีในการสอบถามคนขาย หรือหากไปกับคนตาดี ก็จะให้ช่วยดูโดยค่อยๆ ถามรายละเอียดไปเรื่อยๆ แล้วเลือกซื้อ
จริงๆ ยังมีรายละเอียดยิบย่อยลงไปอีกพอสมควร แต่ผู้เขียนค่อนข้างอธิบายลำบาก เนื่องจากบางอย่างรับรู้ได้ แต่พูดให้คนตาปกติเข้าใจได้ยาก อีกทั้งสิ่งของแต่ละอย่างก็มีรายละเอียดต่างกันออกไปทำให้รายละเอียดต่างกัน ดังนั้นจึงได้ยกตัวอย่างมาให้พอสังเขบและทำความเข้าใจกันได้คร่าวๆ
ทั้งนี้หากอยากทำความเข้าใจในจุดนี้จริงๆ ผู้เขียนแนะนำว่า ให้ลองไปดูคนตาบอดเลือกซื้อของด้วยตัวเองเลยจะเข้าใจง่ายกว่า
ส่วนใครที่สงสัยว่า แล้วหากเป็นการซื้อของทางออนไลน์จะทำยังไง อันนี้ก็คงต้องให้คนตาดีมาช่วยบรรยายภาพสินค้าให้นั่นแหละครับ ถ้าหาคนตาดีไม่ได้จริงๆ ก็ทักถามรายละเอียดสินค้ากับคนขายเอา ได้รายละเอียดแค่ไหนก็แค่นั้น ส่วนเมื่อรู้รายละเอียดแล้วจะซื้อหรือไม่ ค่อยตัดสินใจกันไป
ขอออกตัวก่อนว่า วิธีที่ได้กล่าวไปทั้งหมดนี้บางอย่างก็อาจไม่ครบท่วน เพราะคนตาบอดแต่ละคนก็มีวิธีเลือกสินค้าที่แตกต่างกันออกไป ที่นำมาบอกกล่าวกันก็แค่เป็นวิธีพื้นฐาน ที่คนตาบอดส่วนใหญ่ใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้ากันเท่านั้นครับ
ผู้อ่านสามารถสนับสนุนเว็บไซต์ โดยการอุดหนุนนิยายบนเว็บไซต์ เขียนกันดอทคอม เว็บไซต์อ่านนิยายที่คนตาบอดเป็นเจ้าของ และอยากให้สังคมการอ่านเป็นของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าตาดีหรือตาบอด
แสดงความคิดเห็น